“ร่างทรง” เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตอย่างไร ให้เรื่องของ AI ช่วยตอบ

KMUTT Library
4 min readDec 9, 2021

--

จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์ เรื่อง “ร่างทรง” เรียกได้ว่า โด่งดัง จนปฏิเสธที่จะกล่าวถึงไม่ได้ ด้วยรายได้ทะลุร้อยล้าน (101.09 ล้าน) ในประเทศไทยภายในระยะเวลาการฉาย 18 วัน และเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดในประเทศเกาหลีใต้ [1] ข้อมูลวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564) ทำให้มีการกล่าวถึงในสังคมออนไลน์อย่างเป็นวงกว้าง เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนังในแง่มุมต่างๆรวมถึงในแง่มุมทางจิตเวช [2] ในที่นี้โดยรวมเรียกว่า Culture bound syndrome อาการที่ผูกพันกับวัฒนธรรม อาการที่ทำให้คนไข้เสียความเป็นตัวเอง จำตัวเองไม่ได้ ลักษณะอาการ “Possession disorder [3] ทำให้ปวดศีรษะ ร้อนๆ หนาวๆ มีความเปลี่ยนแปลงทางสติสัมปชัญญะ พฤติกรรมอาละวาด ฯ

ความเข้าใจทั้งในแง่มุมของความเชื่อและในแง่มุมของวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เห็นเหตุและผลของสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นของตัวละครหลักในภาพยนตร์ทำให้ตระหนักได้ว่า ปัญหาสุขภาพจิตเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิดเพราะเป็นสิ่งที่อยู่ภายในร่างกาย เจ้าของร่างกายอาจจะไม่รับรู้ถึงความเสียหายที่อาจก่อให้เกิดโรคได้โดยบทความในครั้งที่แล้ว AI ใส่ใจสุขภาพจิต ได้กล่าวถึงแอปพลิเคชันในการจัดการปัญหาสุขภาพจิต ให้คอยได้ตรวจเช็คอาการ และปรับปรุงการแก้ไขตามคำแนะนำต่างๆของแอปพลิเคชันรวมถึงในส่วนการติดต่อทางไกลกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในครั้งนี้จะนำเสนอในแบบเจาะลึกว่า บทบาทของ AI จะมีส่วนช่วยต่อการเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาอย่างไรบ้าง ควรเริ่มจากการทำความเข้าใจใน AI ก่อน

คำว่า AI เอ-ไอ (Artificial Intelligence) มีการนำมาใช้ครั้งแรกในการประชุมเชิงปฏิบัติการ The Dartmouth Summer Research Project ในปี ค.ศ. 1956 ที่นำเสนอโครงร่างงานวิจัยจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางคอมพิวเตอร์ โดยเนื้อหาในงานวิจัยแสดงข้อมูลปัญญาของเครื่องจักร (คอมพิวเตอร์) ว่าสามารถทำให้เครื่องจักรใช้ภาษาสร้างนามธรรมและแนวคิดเพื่อแก้ปัญหาของมนุษย์และพัฒนาตนเองได้ [4] ทำให้คำว่า AI เริ่มเป็นที่รู้จักนับแต่นั้นมา ต่อมาได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวให้มีความฉลาดมากขึ้น เช่น ช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถคาดการณ์หรือตัดสินใจบางอย่าง ทำงานบนอัลกอริทึมที่เรียนรู้ด้วยตนเองได้โดยใช้ข้อมูลในอดีต ดังนั้น คำว่า AI จึงมีความเชื่อมโยงกับคำว่า ML เอ็ม-แอล หรือ Machine Learning (กระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองของเครื่องจักรกล) [5] นอกจากนี้การเพิ่มความซับซ้อนของความฉลาดเข้าไปให้มีมากขึ้นยังสัมพันธ์กับคำว่า DL ดี-แอล หรือ Deep Learning (การเรียนรู้เชิงลึกของเครื่องจักรกล) โดยใช้โครงข่ายใยประสาทเทียมทำให้เครื่องจักรสามารถวิเคราะห์และทำบางอย่างได้ด้วยความซับซ้อน [6]

รูปที่ 1 ภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง AI ML และ DL (Athiwat, 2017)

ตามกระแสทางสุขภาพดิจิทัล พบว่า สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีสำหรับสุขภาพจิต (Mental Health) เติบโตอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลทางสถิติของสหราชอาณาจักร พบว่า มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีสุขภาพจิตเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และผู้บริโภคเปิดรับเทคโนโลยีสุขภาพจิตในแง่บวก พบว่า ในกลุ่มวัยทำงานมีอัตราการใช้งานเติบโตถึง 65% (ข้อมูลปี ค.ศ. 2019) [7] อย่าง Andy Blackwell ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์และกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัท IESO Digital Health แห่งสหราชอาณาจักร ผู้สนับสนุนเทคโนโลยี 8 Billion Minds ยังมีความพยายามมมุ่งเน้นในการใช้เทคโนโลยีมาปรับปรุงทางด้านการรักษาทางจิตวิทยาและประสาทวิทยา โดยเชื่อว่าการใช้ AI จะสามารถทำให้ผู้คนใส่ใจดูแลตนเอง ได้รับการรักษาตนเองได้ทันเวลา เพราะจากสถิติผู้ที่เกิดโรคทางจิตมีมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ประสบปัญหาทางสุขภาพจิตและไม่ได้รับการรักษา ดังนั้น เมื่อผู้คนมีเครื่องมือประเมินตนเอง จะมีส่วนช่วยต่อการเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาได้ [8] เช่น เมื่อได้ Track อาการผู้ป่วยจะสามารถทำนายสาเหตุการเกิดโรค วินิจฉัยโรคได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการลดความเสี่ยงจากการใช้ตัวยาที่มีผลกับระบบประสาท ลดความเสี่ยงในการที่ผู้ป่วยเลิกรักษากลางคัน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของการเข้ารับการรักษาทางจิต การนำเสนอผลงานของศาสตราจารย์วิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพจิต Dr. Helen Christensen ผู้อำนวยการสถาบัน Black Dog ในออสเตรเลีย ได้เผยแพร่ในการประชุมวิชาการ Global Access to Mental Healthcare Through Digital Technology เรื่อง การใช้ AI และเทคโนโลยีตรวจจับเพื่อปรับปรุงสภาวะจิต (Using AI and Sensor Technology to Improve Mental Health [9] โดยเป้าหมายของโครงการวิจัยนี้จัดทำขึ้นมาเพื่อจัดการกับความทุกข์ของนักศึกษาออสเตรเลียก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยมีกำหนดปัญหาในงานวิจัยว่า AI จะสามารถใช้ในการปรับปรุงและแก้ไขความทุกข์ทางจิตใจได้หรือไม่ คำถามในงานวิจัย ได้แก่

1) ทำอย่างไรให้ผู้คนสามารถรู้สภาวะจิตใจของตนเองได้ : ต้องการให้ผู้ใช้งานที่อาจจะเป็นผู้ป่วยในอนาคตได้มีส่วนในการประเมินและทำนายสุขภาพจิตของตนเองได้

2) เราสามารถรักษาอะไรได้บ้างเพื่อใครและเมื่อใดที่ควรส่งมอบสุขภาพจิตที่ดีถูกวิธีและถูกต้อง : หลังจากการรู้แล้วระบบควรส่งข้อมูลทางสุขภาพจิตให้กับผู้ใช้งานในส่วนนี้ต้องนำข้อมูลส่วนที่ 1 มาวิเคราะห์และออกแบบข้อมูลที่ผู้ใช้งานควรจะได้รับ ซึ่งต้องเป็นอย่างถูกต้องและถูกวิธี

3) การส่งข้อมูลให้กับผู้คนต้องเป็นไปตามระดับใดถึงจะเหมาะสม

การใช้ AI มาช่วยปรับแนวทางการรักษาสุขภาพจิตในการนำเสนองานวิจัยดังกล่าวประกอบด้วยการทำงาน 5 ส่วนหลัก โดยส่วนแรกเป็นส่วนของการวินิจฉัยอาการมีการส่งและรับข้อมูลจากผู้ใช้งานเพื่อเก็บข้อมูลพฤติกรรม (เห็นได้จากแอปพลิเคชันทั่วไปที่กล่าวไว้ในบทความ AI ใส่ใจสุขภาพจิต[10]) ผู้ใช้งานต้องเปิดบอกตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ ที่ตนเองเดินทางไปข้อมูลกิจกรรมรายวันของตนเอง ตรวจจับการเคลื่อนไหวทางร่างกายของผู้ใช้งาน และทำแบบทดสอบประเมินตนเอง พร้อมรับข้อมูลคำแนะนำจากระบบ ส่วนที่สอง ส่วนภายในโมดูลครอบคลุมการรักษาความปลอดภัยของระบบและรักษาข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อส่งต่อไปยัง ส่วนที่สาม ส่วน Machine Learning การดึงเฉพาะข้อมูลที่สำคัญมาวิเคราะห์หาแบบแผน/รูปแบบที่เหมือนหรือแตกต่าง (patterns) และความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นจากสิ่งที่เป็นบริบทปกติ (context) ของผู้ใช้งานวิเคราะห์จากข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งาน โดยใช้ส่วนที่ 4 ส่วน AI ที่หาผลลัพธ์กระบวนการปรับพฤติกรรมให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลการปรับตัวและปรับปรุงที่เหมาะสมที่สุดกับผู้ใช้งาน ส่งไปยังส่วนที่ 5 การวินิจฉัยและข้อมูลการปรับปรุงนั้นจะถูกส่งต่อไปยังส่วนแรกของผู้ใช้งาน โดยสรุปเป็นแผนภาพดังนี้

รูปที่ 2 ภาพแสดงกระบวนการรักษาสุขภาพจิตด้วย AI (ในการนำเสนอของ Dr.Helen Christensen, 2020)

การทดลองเพื่อให้ได้รับรู้ผลลัพธ์ของประสิทธิภาพการรักษาจึงมีส่วนประกอบหลัก คือ นักศึกษามหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่มีความทุกข์ทางจิตใจในระดับหนึ่งโดยยังไม่มีภาวะทำร้ายตนเองให้ถึงแก่ชีวิต การสุ่ม 1 ใน 3 ของผู้ที่ใช้แอปพลิเคชันเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ว่า มีการฝึกสติ การออกกำลังกาย ภาวะการนอนหลับที่ดีและเพียงพอ ผลลัพธ์หลัก คือ การเปลี่ยนแปลงก่อน-หลัง ในการใช้แอปพลิชันภายในระยะเวลา 7 วัน ซึ่งการทดลองนี้ยังอยู่ในการศึกษาวิจัย แต่ความคืบหน้าในการวิจัยนี้สะท้อนบทเรียนได้แล้วว่า ผู้ใช้งานต้องการใช้งานระบบที่เข้าใจง่าย และอยากจะมีส่วนร่วมในการทดสอบหรือประเมินตนเองหรือไม่ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่น่าสนใจของแนวทางการเก็บข้อมูล เช่นในรูปแบบเกมจะสามารถดึงการมีส่วนร่วมได้ดี และตัวบ่งชี้พฤติกรรมนั้นควรมีมากกว่า 1 ปัจจัย ดังนั้น ใน ML จึงต้องมีการให้ข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้งานเข้าไปอย่างหลากหลาย เช่นเดียวกับงานวิจัยของ Dr. Danielle Belgrave [11] ผู้เชี่ยวชาญใน Microsoft แห่งสหราชอาณาจักร ที่นำเสนอ เรื่อง Machine Learning for Personalized Mental Healthcare ให้ข้อมูลไว้ว่า การวิเคราะห์หาแบบแผนพฤติกรรมของผู้ป่วยในงานวิจัยโดยใช้ Hidden Markov Model เพื่อให้เข้าใจในน้ำหนักของสิ่งที่ตอบสนอง (Modalities of engagement) อาจชี้ให้เห็นถึงรูปแบบการตอบสนองต่อแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน

Photo by National Cancer Institute on Unsplash

สำหรับประเทศไทยนั้นมีความตื่นตัวต่อการใช้แอปพลิเคชันเพื่อรักษาสุขภาพจิตเช่นกัน เห็นได้จากการพัฒนาแอปพลิเคชัน Tele Mental Health อย่าง RAKSA [12] แอปพลิชัน OOCA [13] ที่เดือนแรกในการก่อตั้งมีเพียง 4 คนเข้าใช้งานแต่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานเดือนละกว่าพันคน (ข้อมูลเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 2021) ผู้ใช้งานจะรับการรักษาแบบคุยกับจิตแพทย์แบบออนไลน์และจ่ายยาแบบทางไกล ซึ่งแอปพลิเคชันเพื่อรักษาสุขภาพจิตในไทยอาจมีแนวโน้มพัฒนาเป็น AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา ช่วยลดระยะเวลาการวินิจฉัยอาการของแพทย์ ช่วยสนับสนุนให้คนไข้สนใจการรักษาและติดตามอาการของตนเองอย่างต่อเนื่องได้ ทั้งนี้ต้องร่วมมือกันในหลากหลายสาขาวิชาโดยใช้องค์ความรู้ทางวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตัวอย่างเช่นการใช้ข้อมูลของวิทยานิพนธ์ของภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มจธ. เรื่อง การวิเคราะห์คุณลักษณะเอ็นโทปีของเสียงในฐานะตัวช่วยบ่งบอกระดับสุขภาพจิตในผู้ป่วยโรคอาการซึมเศร้า [14] การใช้ข้อมูลของโปรเจคคณะ IT มจธ. เรื่อง เกมเพื่อสุขภาพจิต[15] ไปสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานในแอปพลิเคชันดูแลสุขภาพจิต เป็นต้น เชื่อได้ว่า ในวงการทางการแพทย์การพัฒนา AI เพื่อการรักษาโรคทางจิตจะพัฒนาแนวทางการรักษาไปอย่างต่อเนื่องตามการพัฒนาของเทคโนโลยีและตามความต้องการของผู้ใช้งาน ที่พร้อมเปิดรับและให้ความสนใจในทางที่ดี

ดังนั้น หวังว่าบทความนี้จะสามารถจุดประกายสายวิศวะ วิทย์และเทคโนโลยี ให้เกิดความสนใจในการวิจัยต่อยอดเพื่อเกิดประโยชน์แก่ผู้คนอย่างเป็นวงกว้าง

ถ้าใช้มุมมองทางวิทยาศาสตร์มาใช้กับภาพยนตร์เรื่องร่างทรง อาจสรุปได้ว่า ถ้าตัวละครหลักได้รู้จักแอปฯ เพื่อตรวจเช็คสุขภาพตนเองและดูแลจิตใจตนเองบ้าง ‘ร่างทรง’ อาจจะไม่หลอนคนดูให้ติดตาขนาดนี้…

รวบรวมและเรียบเรียงโดยนางสาวอารยา ศรีบัวบาน

บรรณานุกรม

1 ไทยโพสต์, 2564, “ร่างทรง” รายได้ทะลุร้อยล้านในไทย และทำรายได้สูงสุดในเกาหลี [online], Available: https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/972175 [16 พฤศจิกายน 2564]

2 The Moof, 2021, November 1, ร่างทรง : สรุป 14 ข้อสังเกต ความคิดเห็น บทวิเคราะห์เนื้อเรื่อง, YouTube, Available: https://youtu.be/_Urdhw0ijRg [8 พฤศจิกายน 2564]

3 Gaw AC, Ding Q, Levine RE, Gaw H., 1998, “The clinical characteristics of possession disorder among 20 Chinese patients in the Hebei province of China”, Psychiatr Serv. [Online], Vol. Mar49, №3, pp. 360–365. DOI: 10.1176/ps.49.3.360. [2021, November 8]

4 Jørgen Veisdal, 2019, The Birthplace of AI [Online], Available: https://www.cantorsparadise.com/the-birthplace-of-ai-9ab7d4e5fb00 [2021, November 10].

5 JavaTpoint, 2021, Difference between Artificial intelligence and Machine learning [Online], Available: https://www.javatpoint.com/difference-between-artificial-intelligence-and-machine-learning [2021, November 10].

6 Athiwat, 2560, Artificial Intelligence, Machine Learning, และ Deep Learning แตกต่างกันอย่างไร? [Online], Available: https://link.medium.com/w6WE9od8ilb [16 พฤศจิกายน 2564].

7 P. Murali Doraiswamy and et.al, 2019, Empowering 8 Billion Minds: Enabling Better Mental Health for All via the Ethical Adoption of Technologies, NAM Perspectives. [Online], Discussion Paper, National Academy of Medicine, Washington, DC. Available: https://doi.org/10.31478/201910b [2021, November 10].

8 Andy Blackwell, 2020, March 12, Artificial Intelligence Meets Mental Health Therapy [Video], TEDx Talks, https://youtu.be/ZkTvw3usMw4 [16 พฤศจิกายน 2564].

9 Helen Christensen, 2020, Using AI and Sensor Technology to Improve Mental Health, 2020 Technology in Psychiatry Summit, [Online], October 28–30th, 2020, Available: https://youtu.be/FV2Fs2adn88 [2021, November 10].

10 อารยา ศรีบัวบาน, 2564, AI ใส่ใจสุขภาพจิต, [Online], Available: https://kmuttlibrary.medium.com/ai-ใส่ใจสุขภาพจิต-f6ea5b9d215d [5 พฤศจิกายน 2564].

11 Danielle Belgrave, 2020, Machine Learning for Personalised Mental Healthcare, 2020 Technology in Psychiatry Summit, [Online], October 28–30th, 2020, Available: https://youtu.be/jRbc23H_UA8 [2021, November 16].

12 Wonderful, 2021, May 19, พยายามรีวิว I วิธีแก้เครียด โควิด 19 หาหมอจิตแพทย์ออนไลน์กับแอป Raksa, YouTube, Available: https://youtu.be/-08A5MsR6nA [8 พฤศจิกายน 2564].

13 TNN Online, 2021, May 20, OOCA แอปปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต I TNN Startup, YouTube, Available: https://youtu.be/w_rMMEM1JIs [8 พฤศจิกายน 2564]

14 อดิศักดิ์ อินจันทร์, 2552, การวิเคราะห์คุณลักษณะเอ็นโทปีของเสียงในฐานะตัวช่วยบ่งบอกระดับสุขภาพจิตในผู้ป่วยโรคอาการซึมเศร้า, วิทยานิพนธ์ ปริญญาวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาครุศาสตร์ไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี หน้า 4–31. Available: https://opac.lib.kmutt.ac.th/vufind/Record/1254138 [8 พฤศจิกายน 2564]

15 พุฒิพงษ์ เจริญยิ่งสถาพร, ศรัณย์ โพธิธีรบุตร, อภิรัฐ ได้ดี, 2560, เกมเพื่อสุขภาพจิต (ภาวะซึมเศร้า), ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, หน้า 5. Available: https://opac.lib.kmutt.ac.th/vufind/Record/1355732 [8 พฤศจิกายน 2564]

--

--

KMUTT Library
KMUTT Library

Written by KMUTT Library

KMUTT Library provides information to any person. Our target supports everybody has Life Long Learning ready to 21st century skill.

No responses yet