AI ใส่ใจสุขภาพจิต

KMUTT Library
3 min readOct 6, 2021

--

ในช่วงที่ผ่านมา มีใครเป็นอาการอย่างนี้บ้างหรือไม่ ..

รู้สึกกังวล ห่วงคนรอบข้าง หวังให้ปลอดภัยต่อภาวะโรคระบาด รู้สึกสูญเสียจากข่าวเศร้าของใครบางคนที่จากไป..รู้สึกเหนื่อยที่ต้องต่อสู้เพียงลำพัง รู้สึกเครียดกับงานหน้าจอที่ทำเป็นเวลานาน ๆ คิดอะไรไม่ออก สมองล้า โฟกัสหรือจดจ่อกับสิ่งที่ต้องศึกษาไม่ได้เลย

Photo by Caleb George on Unsplash

ความรู้สึกที่กล่าวมานี้สอดคล้องกับผลการรวบรวมข้อมูลประเมินสุขภาพจิตของคนไทยของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ในช่วงเดือน พ.ค. 2563 ถึง 5 ส.ค. 2564 ที่พบว่า ค่าเฉลี่ยประชาชนทั่วประเทศทุกกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม 102,425 คน มีความเครียดสูง 5.6% เสี่ยงซึมเศร้า 7.27% เสี่ยงฆ่าตัวตาย 3.38% และภาวะหมดไฟ 3.2% ประชาชนทั่วไปเหล่านี้จะตระหนักต่อความผิดปกติด้านอารมณ์ของตัวเองบ้างหรือไม่ มีวิธีการจัดการอย่างไร ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตได้ออกแบบเครื่องมือประเมินสุขภาพจิตเบื้องต้นและคัดกรองความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตจากสถานการณ์ COVID-19 ชื่อว่า MENTAL HEALTH CHECK IN เพื่อช่วยให้บุคลากรสาธารณสุข อาสาสมัคร จิตอาสา ประชาชน ใช้ประเมินสุขภาพและเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็ว

หน้าจอตัวอย่างผลลัพธ์การประเมินสุขภาพจิตเบื้องต้น https://checkin.dmh.go.th/
หน้าจอตัวอย่างคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ประเมินรับทราบข้อมูลถึงแนวทางการปฏิบัติตนต่อการดูแลสุขภาพจิต https://checkin.dmh.go.th/

นอกจากนี้ผลการเก็บข้อมูลประเมินสุขภาพจิตสามารถนำไปวิเคราะห์แนวโน้มของสุขภาพจิตโดยรวมเพื่อให้บริการด้านสุขภาพจิต เช่น การให้บริการสายด่วนสุขภาพจิต โทร-แชทข้อความขอรับบริการให้คำปรึกษา และการปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกันในสังคมกับบุคคลอื่นได้ จากแผนพัฒนาดิจิทัล กรมสุขภาพจิต ฉบับที่ 1 (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562–2565) ของไทย มีร่างแผนการพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์ ที่ต้องการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อสนับสนุน E-Mental Health การบริการการรักษาทางไกล ดังนั้น คนไทยจึงควรได้รู้จักการให้บริการด้านสุขภาพจิตทางไกลซึ่งมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence Technology : AI) มาเป็นส่วนช่วยสำคัญให้ผู้คนดูแลรักษาสุขภาพจิตมากยิ่งขึ้น จากผลงานวิจัยของ IBM ในปี ค.ศ. 2017 ระบุว่าเทคโนโลยีทางด้าน AI เป็นกุญแจปลดล็อคต่อปัญหาทางสุขภาพจะเข้ามามีส่วนช่วยต่อระบบการรักษาทางสุขภาพจิตในอีก 5 ปี จากข้อมูลที่เราพูด เขียน และบันทึกผลออกมา เป็นตัวชี้วัดสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายในอนาคต กิจกรรมจากพฤติกรรมการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีของเรา เช่น โทรศัพท์มือถือ นาฬิกาอัจฉริยะ หูฟังอัจฉริยะ จะถูกกำหนดเป็นรูปแบบและวิเคราะห์สัญญาณความปกติและหาความไม่ปกติในแรกเริ่มของความป่วยทางจิต และโรคทางระบบประสาทที่เสื่อมลง ช่วยให้แพทย์คาดการณ์และติดตามผู้ป่วยได้ ยกตัวอย่างรายละเอียดในงานวิจัยบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ต่อเทคโนโลยีและสุขภาพจิต ในปี ค.ศ. 2020 ที่ใช้ AI ในการจำแนกพฤติกรรมทางด้านสุขภาพจิต โดยมีการบันทึกผลจากเซ็นเซอร์ร่วมกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เช่น แอพ “Companion” เพื่อติดตามผู้ป่วยผ่านพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์คนที่มีภาวะผิดปกติทางใจ (Post-traumatic stress disorder : PTSD) หรือภาวะซึมเศร้า โดยวิเคราะห์จากพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ จำนวนการโทรออก จำนวนข้อความที่ไม่ซ้ำ ความผันแปรของเสียงในโทรศัพท์มือถือ วิเคราะห์คุณภาพเสียงทำนายอาการซึมเศร้า ประโยคที่มีแนวโน้มเสี่ยงต่อพฤติกรรมเศร้า เช่นเดียวกับการใช้ AI เพื่อบ่งชี้พฤติกรรมจากการวัดสุขภาพจิตในกลุ่มนักศึกษาจากพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักศึกษา 251 คน สามารถจำแนกเป็นกลุ่มที่มีความเครียดสูง/ต่ำ มีความแม่นยำที่ 86% ในปัจจุบันเริ่มมีการใช้ AI ทั้งในรูปแบบแอปพลิเคชัน (Application) และแชทบอท (Chatbot) ดังนั้นจึงนำเสนอแอปพลิเคชันและแชทบอทที่น่าสนใจให้มาได้รู้จักกัน

Photo by Balázs Kétyi on Unsplash

แอปพลิเคชันเพื่อสุขภาพจิต ที่พัฒนาโดยนักพัฒนาชาวไทยและต่างประเทศสามารถแบ่งได้ตามเป้าหมายการใช้งาน ได้แก่

1) แอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการตัวเอง (Self-management apps) กรอกข้อมูลตอบคำถามคัดกรองเพื่อให้ระบบประมวลผลออกมาเป็นคำแนะนำ เช่น แอปพลิเคชัน Mental Health Check Up ตอบแบบประเมินเก็บข้อมูล แอปพลิเคชัน Moodfit แอปพลิเคชัน eMoods เก็บ track ข้อมูลสภาวะอารมณ์และกิจกรรมในแต่ละวัน

2) แอปพลิเคชันสำหรับฝึกฝนทักษะ (Skill-training apps) การเรียนรู้วิธีจัดการรับมือปัญหาความไม่สบายใจ ผ่านการฝึกฝนที่ช่วยให้ผ่อนคลาย สบายใจ อย่างการฝึกสมาธิ เช่น แอปพลิเคชัน MoodMission แอปพลิเคชัน Calm ที่มีกิจกรรมให้โจทย์จัดการกับอารมณ์

3) แอปพลิเคชันสำหรับสนับสนุนการรักษา (Supported care apps) ใช้ติดต่อ นัดหมาย เชื่อมโยงกับบริการสุขภาพของสถานพยาบาลเพื่อติดตามผลระหว่างรักษา เช่น แอปพลิคชัน Talkspace สามารถพูดคุยปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพจิต แอปพลิเคชัน Ooca แอปพลิเคชัน Sati แอปพลิเคชัน Raksa

แชทบอทที่ช่วยรักษาด้วยการบำบัดด้วยความคิดและพฤติกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพจิต Cognitive Behavioral Therapy (CBT) สามารถแบ่งได้ตามเป้าหมายการใช้งาน ได้แก่

1)แชทบอทที่ตรวจสอบอารมณ์ของผู้ใช้ โดยแสดงความคิดเห็นผ่านการสนทนาเพื่อการรักษา บำบัดด้วยการพูดคุยให้ผู้ป่วยช่วยปรับทัศนคติเชิงลบของตนให้เป็นแง่บวก ตีความอารมณ์จากคีย์เวิร์ดการสนทนาของผู้ใช้ เช่น แอปพลิเคชัน Woebot แอปพลิเคชัน Wysa แอปพลิเคชัน Joy แอปพลิเคชัน psyjaibot (ใส่ใจ)

2) แชทบอทที่แนะนำผู้ใช้ในกิจกรรมบันทึกประจำวัน ให้ผู้ใช้บันทึกอารมณ์ พร้อมให้คำอธิบายสั้นๆ รับรู้อารมณ์ในแง่ลบ และถามคำถามเชิงลึกช่วยให้ผู้ใช้ได้ไตร่ตรองอารมณ์ของตัวเขาเองไปสู่รูปแบบความคิดเชิงบวก และมีกิจกรรมแบบฝึกหัดด้วยเสียง เช่น แอปพลิเคชัน Moodnotes แอปพลิเคชัน Pacifica

จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยี AI เข้ามามีส่วนช่วยมากขึ้นต่อการดูแลสุขภาพจิต ส่วนใหญ่ปรากฏให้ได้ใช้กันมากในรูปแบบแอปพลิเคชันเพราะสะดวกต่อผู้ใช้งานที่สามารถให้ระบบวิเคราะห์สุขภาพของตนเองผ่านการบันทึกข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟน รวมทั้งมีแชทบอทที่ไว้พูดคุยปรึกษาสุขภาพใจด้วยได้ เป็นประโยชน์ต่อการรักษาเพราะ AI ขับเคลื่อนด้วยการใช้ข้อมูลแบบจำลอง คาดการณ์ การตรวจจับภาวะสำหรับสุขภาพจิต ให้แก่การอนุมานสุขภาพจิตของผู้ป่วยไปยังแพทย์ผู้รักษา ซึ่งไม่ได้แทรกแซงต่อแนวทางการรักษาแต่อย่างใดเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์รวบรวมผลของผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แม้ว่าเรามีผู้คนแวดล้อมรอบตัวเรา แต่เรื่องบางเรื่องเราอาจจะไม่ได้อยากเล่าให้ใครฟังก็ได้ ดังนั้น แอปพลิเคชันจึงเป็นทางเลือกหนึ่งของดูแลรักษาสุขภาพจิต แล้วคุณล่ะ ได้ดูแลใจของคุณบ้างแล้วหรือยัง

รวบรวมข้อมูลโดยนางสาวอารยา ศรีบัวบาน

เอกสารอ้างอิง

Amy Morin, LCSW. (2021). Best Mental Health Apps : Find peace of mind from your smartphone or tablet. Retrieved by September 1, 2021. URL: https://www.verywellmind.com/best-mental-health-apps-4692902.

Ayn de Jesus. (2019). Chatbots for Mental Health and Therapy — Comparing 5 Current Apps and UsemCases. Retrieved by August 29, 2021. URL: https://emerj.com/ai-application-comparisons/chatbots-mental-health-therapy-comparing-5-current-apps-use-cases/.

D’Alfonso, S. (2020). AI in mental health. Current Opinion in Psychology.

doi:10.1016/j.copsyc.2020.04.005.

Lovejoy, C. (2019). Technology and mental health: The role of artificial intelligence. EuropeanmPsychiatry, 55, 1–3. doi:10.1016/j.eurpsy.2018.08.004

PR Newswire. (2017). IBM Reveals Five Innovations that will Help Change our Lives within Five Years. Retrieved by August 27, 2021. URL: https://newsroom.ibm.com/2017-01-04-IBM-Reveals-Five-

Innovations-that-will-Help-Change-our-Lives-within-Five-Years-1. กรมสุขภาพจิต. (2564). MENTAL HEALTH CHECK IN. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564, URL: https://checkin.dmh.go.th/.

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2564). แผนพัฒนาดิจิทัล กรมสุขภาพจิต ฉบับที่ 1 (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562-2565) (แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมสุขภาพจิต). สืบค้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564, URL: https://www.dmh.go.th/intranet/cio/Digi_Dev_Plan/files/แผนพัฒนาดิจิทัล%20กรมสุขภาพจิต%20ฉบับที่1%202562_2565.pdf.

ไทยรัฐออนไลน์. (2564). เช็กสุขภาพจิต 4 สัญญาณอันตราย คนกรุงตกงานเสี่ยงเครียด ซึมเศร้ากว่าครึ่ง. สืบค้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564, URL: https://www.thairath.co.th/scoop/infographic/2182526.

Warittha Saejia. (2564). สมองล้า คิดอะไรไม่ออก เหมือนมีหมอกปกคลุม? รู้จักภาวะ ‘Brain Fog’ ที่ทำให้สมองไม่สดใส. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2564, URL: https://thematter.co/social/how-to-beat-brain-fog-during-pandemic/153512.

Suriyan Panomai. (2564). 5 แอปฯ ฮีลใจดาวน์โหลดติดเครื่องไว้ในวันที่เจอแต่เรื่องชวนเครียด. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2564, URL: https://www.timeout.com/bangkok/th/health-and-beauty/mental-health-app.

--

--

KMUTT Library
KMUTT Library

Written by KMUTT Library

KMUTT Library provides information to any person. Our target supports everybody has Life Long Learning ready to 21st century skill.

No responses yet