Future Food คืออะไร

KMUTT Library
4 min readMar 23, 2022

--

โลกในยุคปัจจุบันการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่สะดวกรวดเร็ว มนุษย์สามารถจัดการต่อความต้องการทางด้านอาหาร การออกกำลังกาย รวมถึงช่องทางการขอรับบริการทางการแพทย์ การรักษาพยาบาลผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ง่ายๆ ส่งผลให้มนุษย์มีคุณภาพชีวิตที่ดี และอายุขัยเฉลี่ยนานขึ้น จากผลวิจัยของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ เจโร ประเทศสิงค์โปร์ [1]ได้ศึกษาเรื่องการทำนายขีดจำกัดของอายุขัยมนุษย์ จากการวิเคราะห์ผลตรวจนับเม็ดเลือด ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Nature Communications พบว่า วงจรชีวิตของมนุษย์มีได้มากที่สุดถึง 120–150 ปี หลังจากนั้นเซลล์ต่าง ๆ จะเสื่อมสภาพลง ไม่สามารถฟื้นฟูตนเองได้ และอีกหลายงานวิจัยที่ต้องการให้ชะลอวัยเพิ่มความยืนยาวของชีวิต ซึ่งจากงานวิจัยนี้เหล่านี้ทำให้ผู้เขียนคิดว่า การเข้าถึงเทคโนโลยีในทางการแพทย์ได้มากขึ้น อาจทำให้มนุษย์ชะลอวัยและมีชีวิตยืนยาวไปถึง 120–150 ปีย่อมเป็นไปได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญอย่าง “อาหาร” ในการดำรงชีวิตด้วย ลักษณะของอาหารจะไปในทางเพื่อรักษาสุขภาพมากขึ้นหรือไม่ อาหารในอนาคตของโลกเราจะเป็นอย่างไรนั้นต้องวิเคราะห์ประชากรของโลกเราในอนาคตก่อน

รูปที่ 1 ภาพแสดงปริมาณอาหารที่ต้องการผลิตเพิ่มขึ้นในปี 2050 (Karadsheh, 2019)

สถานการณ์การเติบโตของประชากรจากรายงาน The World Population Prospects 2019 [2]คาดการณ์ว่า อัตราช่วงวัยที่เติบโตอยู่ในโลกนั้นเยอะที่สุดในช่วงปี ค.ศ. 2050 โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีช่วงอายุ 65 ปีขึ้นไป คนที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไปมีอัตราเติบโตสูงขึ้นเป็น 3 เท่า มีโดยประมาณ 426 ล้านคน และจำนวนประชากรทั้งโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 9.7 พันล้านคนภายในปี ค.ศ. 2050 [3] เราอาจจะต้องเพิ่มการผลิตอาหารอีก 60–100% [4] เพราะเมื่อประชากรมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ความต้องการอาหารต่อคนจะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะด้านเนื้อสัตว์ ทั้ง ๆ ที่เรามีประชากรเพิ่มขึ้นอีกแค่ประมาณ 30% เราจะผลิตอาหารเพียงพอได้อย่างไร “อาหารแห่งอนาคต” หรือ “Future Food” มีความน่าสนใจขึ้นไปอีก

Future Food หรืออาหารแห่งอนาคต [5] ไม่มีการระบุนิยามความหมายตายตัว แต่สรุปจาก Review Article เรื่อง Future Food สรุปได้ว่า อาหารแห่งอนาคตเป็นอาหารที่ตอบสนองต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงไป มนุษย์ไม่ได้ต้องออกไปล่าดังเช่นอดีต เมื่อได้รับพลังงานจึงทำให้สะสมอยู่ในร่างกายมาก ไม่สมดุลกับการออกกำลังกาย อาหารแห่งอนาคตตอบสนองต่อการรับประทานอาหารแบบเลือกทานที่เหมาะสมกับสุขภาพแต่ละบุคคล เรียกว่า โภชนาการเฉพาะบุคคล (Personalized Nutrition) นอกจากนี้ยังเป็นอาหารที่ช่วยเหลือต่อระบบนิเวศของโลกที่กำลังเสื่อมโทรมลงไปทุกวัน

สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ประเทศไทย ได้แบ่งอาหารแห่งอนาคตเป็น 4 กลุ่ม [6] ได้แก่

  1. อาหารเสริมสุขภาพ (Functional Food) เป็นอาหารที่เพิ่มเติมส่วนผสมใหม่ หรือเพิ่มจากส่วนผสมที่มีอยู่ให้ร่างกายมีกลไกในการดูแลตัวเองได้ดีขึ้น ผู้บริโภคมักนิยมบริโภคเพื่อเสริมสร้างระบบบางอย่างของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการชะลอวัย ป้องกันการเกิดโรค เร่งการเผาผลาญ ช่วยออกกำลังกาย เช่น โปรตีนสูงผสมแอลคาร์เนทีนสำหรับคนออกกำลังกาย เครื่องดื่มบำรุงผิวพรรณ เครื่องดื่มเสริมวิตามิน เกลือแร่ต่าง ๆ นมที่เพิ่มส่วนผสมของโพรไบโอติก ไข่ไก่เสริมโอเมก้า-3 เป็นต้น
  2. อาหารทางการแพทย์ (Medical Food) เป็นอาหารที่ตอบสนองด้านการแพทย์ โดยใช้โภชนบำบัด ผลิตเป็นอาหารหรือเครื่องดื่ม มักมีสารอาหารโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ที่ดัดแปลงให้ย่อยหรือดูดซึมได้ง่ายเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาหรือบรรเทาอาการของโรคได้อย่างเฉพาะเจาะจง แต่ไม่ใช่ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ เช่น อาหารปั่นสำหรับผู้ป่วยที่ต้องให้อาหารทางสายยาง เครื่องดื่มแทนมื้ออาหาร เป็นต้น
  3. อาหารอินทรีย์ (อาหารออร์แกนิก : Organic Food) หรืออาหารเกษตรอินทรีย์ เป็นอาหารที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี [7] ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมาจากธรรมชาติ ไม่มีวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ตัดต่อพันธุกรรมด้วย สำหรับผู้บริโภคที่ห่วงใยสุขภาพ ต้องการอาหารตามธรรมชาติ มีกระบวนการผลิตที่ปลอดสารเคมีผ่านการปรุงแต่งแปรรูปเล็กน้อย เช่น โจ๊กข้าวกล้องสำหรับเด็ก ผลไม้อบแห้ง เครื่องดื่มออร์แกนิก ขนมขบเคี้ยวไม่มีผงชูรส เป็นต้น
  4. อาหารทางนวัตกรรม (Novel Food) เป็นอาหารที่ไม่ได้ใช้เทคนิคการผลิตแบบดั้งเดิม มีการปรับแต่งกระบวนการผลิตแบบใหม่ จากเทคโนโลยีใหม่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญด้านคุณค่าทางโภชนาการ การเผาผลาญอาหาร ส่วนประกอบในอาหารที่ไม่พึงประสงค์หรือโครงสร้างโมเลกุล ผู้บริโภคอาจเป็นคนทั่วไปหรือคนเฉพาะกลุ่มที่นิยมอาหารแบบใหม่ แปลกตา เช่น อาหารกลุ่ม Plant Based ผงโปรตีนจิ้งหรีด [8] ผงโปรตีนจากผำ เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า จากความหมายและการแบ่งกลุ่มอาหารในแต่ละกลุ่ม เมื่อมองโดยสรุปแล้วสามารถใช้มุมมองของคุณแดน ปฐมวาณิชย์ ผู้บริหารจากบริษัท NRF ในการแบ่งองค์ประกอบที่สำคัญของอาหารแห่งอนาคต ได้ 3 ส่วน [9] ได้แก่ อาหารย่อมต้องดีต่อสุขภาพ อาหารย่อมต้องดีต่อโลก และช่วยเกษตรกรและคนที่ทำงานอยู่ให้อยู่ในระบบการผลิตอาหารที่ยั่งยืนได้ กลุ่มอาหารที่เป็นที่น่าจับตามองต่อการลงทุนของนักธุรกิจรุ่นใหม่ คือ Plant-based ซึ่งเริ่มมาบริษัทชั้นนำในตลาด Beyond Meat บริษัทเจ้าใหญ่ของโลกเจ้าแรกที่ผลิต Plant-based Meat เนื้อแบบไร้เนื้อมาวางจำหน่ายเมื่อปี ค.ศ. 2016 ต่อมาในต้นปี ค.ศ. 2019 ราคาหุ้นด้าน Plant-based Meat พุ่งขึ้นถึง 163% [10] จึงทำให้ผู้คนสนใจในธุรกิจนี้ในวงกว้างมากขึ้น และมีคู่แข่งอย่างบริษัท Impossible Foods ที่วางขาย Plant-based ในซุปเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ ทั่วในสหรัฐอเมริกา โดยใน ปี ค.ศ. 2019 พบว่า กลุ่มประชากรที่มีความนิยมต่อการรักษาสุขภาพอย่างที่อาศัยอยู่ใน รัฐแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก ลอสแอเจลิส ตื่นตัวกับกระแส Plant-based อย่างมาก [11] และสำหรับในประเทศไทยไทยเริ่มมีให้เห็นกันบ้างแล้วด้วยในปี ค.ศ. 2021 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Burger King ที่เปิดตัว Plant-Based Whopper หรือแม้แต่ไก่ป๊อปแพลนต์เบส ของ KFC ก็เช่นกัน ในเอกสารเกี่ยวกับการลงทุนของธนาคารกรุงไทยในปี ค.ศ. 2020 ได้แสดงถึงข้อมูลปัจจัยที่ทำให้ Plant-based น่าลงทุนในทางธุรกิจ [12] ได้แก่

1. ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น

2. มีแนวโน้มที่ผู้บริโภคหันไปสนใจอาหารแบบมังสังวิรัติมากขึ้น

3. ความตระหนักต่อสิ่งแวดล้อมและสวัสดิภาพของสัตว์

4. เทคโนโลยีด้าน FoodTech กำลังเติบโต (เทคโนโลยีที่ช่วยปรับปรุง เปลี่ยนแปลง พัฒนาคุณภาพอาหาร)

5. COVID-19 ทำให้มีความกังวลในการบริโภคเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น

6. ปัญหาความอดอยากในอนาคตทำให้ Plant-based food มีความจำเป็นต้องขยายตัว

ทำความเข้าใจ Plant-based

Plant-based คือ อาหารในกลุ่มโปรตีนทางเลือก (Alternative Protein) ใช้วัตถุดิบที่ทำจากพืชที่ให้โปรตีนสูง เช่น ถั่ว เห็ด สาหร่าย ข้าวโอ๊ต อัลมอนด์ นำมาพัฒนารสชาติ กลิ่น และสีสัน ให้เหมือนกับผลิตภัณฑ์จากสัตว์ โดยกระบวนการผลิตที่ทำให้เหมือนกับเนื้อสัตว์เทียมนั้นจะใช้กระบวนการผลิตอย่างการนำยีสต์และโปรตีนสังเคราะห์ที่ได้จากรากของพืชตระกูลถั่วมาเข้าสู่กระบวนการหมัก โดยมียีสต์เป็นตัวรับทำหน้าที่ผลิตโปรตีนจนทำให้เกิด “ฮีม” (Heme) เป็นโมเลกุลที่พบได้ในกล้ามเนื้อของสัตว์ เมื่อเข้าสู่กระบวนการ GMO ใช้การแปลงสภาพโปรตีนจากพืชตระกูลถั่วเป็นแป้งสาลี และอัดขึ้นรูปจะทำให้มีแนวโปรตีนเป็นเส้นๆ คล้ายกับเนื้อสัตว์ และมีการใช้นวัตกรรม 3D Printing ในการผลิตอาหารอีกด้วย นอกจาก Plant-based อาหารพร้อมทานอย่าง เนื้อวัว เนื้อหมูเทียมแล้ว ยังมี เบคอนเทียม เนื้อปลาทูน่า ปูเทียม กุ้งเทียม นม โยเกิร์ต จากอัลมอนด์และข้าวโอ๊ต ไข่ไก่ ฯ มีการพัฒนาให้รสชาติถูกปากผู้บริโภคมากขึ้น จากการศึกษาคุณค่าทางโภชนาการนั้นคล้ายกับของเนื้อสัตว์จริงบางอย่างโปรตีนอาจจะเท่ากัน คลอเลสเตอรอลไม่มี และแคลอรีน้อยกว่า แต่ปริมาณโซเดียมใน Plant-based สูงกว่ามากเพราะผ่านหลายกระบวนการยังไม่เหมาะสำหรับเด็กทาน [13]

รูปที่ 2 ตัวอย่างการเทียบข้อมูลโภชนาการในเบอร์เกอร์ที่มี Plan-based แต่ละแบรนด์ (McGee,2020)

จะเห็นได้ว่าความสามารถในการผลิต Plant-Based ออกมานั้นยังมีปริมาณโซเดียมสูง ผู้เขียนคิดว่า การต่อยอดงานวิจัยในอนาคตหรือผู้ที่สนใจศึกษาอาหารแห่งอนาคตอาจจะทำให้ปริมาณโซเดียมต่ำลงได้และจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ต้องคอยติดตามกันต่อไป ทั้งนี้ หลังจากมุมมองทางด้านสุขภาพของผู้บริโภคแล้ว การบริโภคพืชแทนเนื้อสัตว์ยังสามารถช่วยโลกได้ด้วย ดังเช่นในปี ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา จากกระแสกินเจเพื่อลดภาวะโลกร้อน [14] อันสืบเนื่องมาจากความตระหนักถึงกรรมวิธีการผลิตเนื้อสัตว์ในอาหารเพื่อให้ทุกคนบนโลกมีบริโภค ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนอย่างหนัก ปัจจุบันมีพื้นที่ฟาร์ม การทำปศุสัตว์จากโรงงานต่าง ๆ ในโลกมีจำนวนอยู่ที่ร้อยละ 30–45 ของพื้นที่โลกทั้งหมด พื้นที่ 1 ใน 3 ของพื้นที่การเกษตรของโลกทำเพื่อการเพาะปลูกพืชให้สัตว์ทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรน้ำจำนวนมาก (เนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัมใช้น้ำต่อกระบวนการผลิต 15,000 ลิตร ในขณะที่ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัมใช้น้ำเพียง 1,800 ลิตร แตกต่างกันถึง 8.3 เท่า) และข้อมูลคาร์บอนฟรุตพริ้นท์สะท้อนว่าร้อยละ 14.5 จากปศุสัตว์นั้นทำให้เกิดโลกร้อน ผู้คนจึงหันมาหาอาหารที่ทำจากพืชกันมากขึ้น ช่วยกันคนละนิด ลดเนื้อสัตว์กันบางมื้อ ช่วยรักษาสวัสดิภาพของสัตว์ ช่วยรักษาโลกใบนี้ให้ยั่งยืน

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้มีโครงการศึกษาวิจัยด้านอาหารแห่งอนาคต ภายใต้กลุ่มงานวิจัยของ ศ.ดร.สักกมน เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ. อาจารย์เป็นหัวหน้าโครงการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อการผลิตอาหารแห่งอนาคต ใน 6 กลุ่มงาน [15] ได้แก่ สีผสมอาหารจากธรรมชาติ เส้นใยนาโนเซลลูโลสจากเศษผักและผลไม้เหลือทิ้งเพื่อใช้เป็นสารเติมแต่งอาหาร สารเพิ่มความข้นหนืดและความคงตัว สารเคลือบจากบุกเพื่อปกป้องสารอาหารหรือจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย การผลิตเมล็ดคั่วกาแฟคุณภาพสูงที่ปราศจากคาเฟอีนโดยใช้ไอน้ำร้อนยวดยิ่ง เจลชีวภาพเชิงหน้าที่จากเศษวัสดุทางการเกษตร และอุปกรณ์ตรวจวัดสารตกค้างในอาหารแบบพกพา ผู้สนใจสามารถติดตามผลการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมที่ วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ.

รูปที่ 3 กลุ่มงานวิจัยของ ศ.ดร.สักกมน เทพหัสดิน ณ อยุธยาหัวหน้าโครงการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อการผลิตอาหารแห่งอนาคต (กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, 2564)

เรียบเรียงโดย นางสาวอารยา ศรีบัวบาน

บรรณานุกรม

1 Pyrkov, T.V., Avchaciov, K., Tarkhov, A.E. et al.,2018, “Longitudinal analysis of blood markers reveals progressive loss of resilience and predicts human lifespan limit”, Nature Communication [Online], Vol. 12, №2765. Available: https://doi.org/10.1038/s41467-021-23014-1 [2022, February 22]

2 United Nations, 2019, Growing at a slower pace, world population is expected to reach 9.7 billion in 2050 and could peak at nearly 11 billion around 2100 [Online], Available: https://www.un.org/development/desa/en/news/population/world-population-prospects-2019.html [2022, February 22]

3 ณรงค์กร มโนจันทร์เพ็ญ, 2562, รายงานยูเอ็นคาด ประชากรโลกเพิ่มสูงถึง 9.7 พันล้านคนภายในปี 2050 อินเดียเตรียมแซงจีนครองแชมป์มีประชากรมากที่สุดในโลก [ออนไลน์], Available: https://thestandard.co/the-world-population-prospects-2019/ [1 มีนาคม 2565]

4 ยงยุทธ เจียมไชยศรี, 2563, “อาหารกำลังจะไม่พอเลี้ยงประชากรโลก”, มก. อาวุโสสัมพันธ์ [Online], ปีที่ 20, ฉบับที่ 92 หน้า 8–10. Available: https://kukrdb.lib.ku.ac.th/journal/KUSA/search_detail/result/397939 [1 มีนาคม 2565]

5 Wahlqvist, M. L., 2016, “Future food”, Asia Pacific Journal of Clinical Nutrition [Online], Vol. 25, №4, pp. 706–715. Available: https://search.informit.org/doi/10.3316/informit.369583429131994 [2022, March 1]

6 อุตสาหกรรมมูลนิธิเพื่อสถาบันอาหาร, ระบบสารสนเทศความรู้อาหารอนาคต [Online], Available: http://fic.nfi.or.th/futurefood/ [5 มีนาคม 2565]

7 เมดไทย, 2021, รวมข้อมูลการดูแลสุขภาพ [Online], Available: https://medthai.com/ [10 มีนาคม 2565]

8 สำนักงานนวัตรรมแห่งชาติ, รวมมาให้ดู 5 นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต คนไทยก็ทำได้ [Online], Available: https://www.nia.or.th/5InnoSPACEF [10 มีนาคม 2565]

9 WOODY, 2020,August 31, อาหารแห่งอนาคต คืออะไร ?? [Youtube], Available: https://youtu.be/kQ9g_-WcJ4w [1 มีนาคม 2565]

10 Ratirita, 2019, รู้จัก Plant-based Food ธุรกิจเนื้อไร้เนื้อที่มาแรงที่สุดในปี 2019 [Online], Available: https://brandinside.asia/plant-based-food-mega-trend/ [15 มีนาคม 2565]

11 LDA World, 2020, January 29, พารู้จัก! Future Food อาหารโลกอนาคตที่จะมาแทนเนื้อสัตว์ | LDA เฟื่องลดา [Online], Available: https://youtu.be/PtkzGzoVuUc [1 มีนาคม 2565]

12 Krungthai Compass, 2020, ทำความรู้จัก Plant-based Food … เมื่อสัตว์จากพืชกลายเป็นเทรนด์อาหารโลก [Online], Available: https://krungthai.com/Download/economyresources/EconomyResourcesDownload_452Plant_based_Food_10_11_63.pdf [15 มีนาคม 2565]

13 McGee, Jessica, 2020, Is Fake meat good bad for kids? [Online], Available: https://riseandshine.childrensnational.org/is-fake-meat-good-or-bad-for-kids/ [March 14, 2022]

14 MGR Online, 2562, คนกินเจ!! (งดบริโภคเนื้อสัตว์) ช่วยลดโลกร้อน [Online] , Available: https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9620000094756 [16 มีนาคม 2565]

15 กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, 2564, มจธ.เร่งพัฒนา ‘ดีพเทค’ ผลิตอาหารแห่งอนาคต [Online], Available: https://www.bangkokbiznews.com/tech/922915 [18 มีนาคม 2565]

--

--

KMUTT Library
KMUTT Library

Written by KMUTT Library

KMUTT Library provides information to any person. Our target supports everybody has Life Long Learning ready to 21st century skill.

No responses yet