รถ EV: Electric Vehicle กับสถานีชาร์จ
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดตามข่าวสารเรื่องรถยนต์ จะเห็นได้ว่ากระแสของ “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” หรือ รถ EV: Electric Vehicle นั้นเป็นที่น่าจับตามองและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เนื่องจากเป็นรถที่ไม่ปล่อยมลพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงพอสมควร ค่ายรถยนต์หลาย ๆ ค่ายต่างมีการค้นคว้าวิจัยอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อให้ได้รถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถตอบสนองการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ให้มากที่สุด ดังนั้นหากว่ารถยนต์ค่ายไหนสามารถนำรถยนต์ออกมาเปิดตัวได้ก่อนก็จะยิ่งสามารถช่วงชิงตลาดได้ก่อนอย่างแน่นอน ซึ่งสอดคล้องกับการประกาศจากภาครัฐที่ให้การสนับสนุนให้จัดตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ รวมถึงการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงมีมาตรการต่าง ๆ ออกมากระตุ้นเชิญชวนให้ประชาชนใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น จากงานแถลงข่าวงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ผู้จัดงานได้เตรียมพื้นที่จัดโซนแสดง EV Smart City แสดงรถยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานแบตเตอรี่ (BEV) และระบบขับเคลื่อนปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) จำนวน 8 รุ่นจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจไม่น้อย [10 ]
เมื่อมองย้อนไปในช่วง 1–2 ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีด้านยานยนต์มีการก้าวกระโดดไปสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า ประชาชนในประเทศเริ่มหันมาให้ความสนใจใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้น จากสถิติล่าสุดของกรมการขนส่งทางบก พบว่า มีการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า รวม 218, 381 คัน ประกอบด้วย รถยนต์พลังงานไฮบริด รถยนต์พลังงานไฟฟ้าลูกผสม และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % ที่ผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศ และมีรถยนต์ไฟฟ้า 100 % จดทะเบียนในปี 2564 จำนวน 3,994 คัน [11 ]
และมีการตั้งเป้าขยายพื้นที่ให้บริการสถานีไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการให้บริการ จากรายงานของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานกระทรวงพลังงาน รายงานจำนวนและตำแหน่งสถานีอัดประจุในประเทศไทย นับถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 827 สถานี (และมีเป้าหมายที่จะขยายสถานีเพิ่มอีก 567 แห่งในปี 2573 และเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าแบบ Fast Charge 13,251 จุด) [2, 3] โดยในปี 2564 มีจำนวนจุดชาร์จไฟฟ้าให้กับรถยนต์ได้ 2,285 จุด ไม่นับรวมการติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้าในบ้าน [4]
จากคุณสมบัติของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV: Electric Vehicle) เป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแทนการใช้งานของเครื่องยนต์ ทำให้กลไกการทำงานลดลง ไม่มีไอเสียควันดำจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ามี 4 ประเภท คือ ยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริด หรือ (HEV, Hybrid electric vehicle), ยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน (PHEV, Plug-in Hybrid Electric Vehicle), ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV, Battery Electric Vehicle), ยานยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV, Fuel Cell Electric Vehicle) [9]
เป็นชนิดแบบที่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ 2 ประเภท คือ
1. Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊ก-อิน ไฮบริด หรือเรียกสั้นๆ ว่า PHEV รถยนต์ประเภทนี้มีระบบการทำงานทั้ง 2 ระบบ คือ น้ำมันเชื้อเพลิง และไฟฟ้าแบบเดียวกับรถ Hybrid แต่พิเศษกว่าคือสามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟจากภายนอกได้ ทำให้สามารถใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่าระบบไฮบริดแบบเดิม สำหรับขนาดแบตเตอรี่ 6–14 กิโลวัตต์ (kW) ระยะทางวิ่งด้วยระบบ EV Mode ประมาณ 25–50 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง
2. Battery Electric Vehicle (BEV) รถยนต์ไฟฟ้า หรือเรียกสั้นๆว่า BEV เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อน 100% ที่ไม่มีเครื่องยนต์ภายในรถ มีแต่แบตเตอรี่ลูกใหญ่ที่เข้ามาทดแทน ข้อดีคือ ช่วยลดสารมลพิษจากการเผาไหม้ได้ดี หรือที่เรียกกันว่า Zero Emission มีข้อจำกัด คือ จำนวนสถานีชาร์จไฟรถยนต์ที่ให้บริการ และระยะทางในการขับขี่ สำหรับขนาดแบตเตอรี่ 60–90 กิโลวัตต์ (kW) ระยะทางวิ่งประมาณ 300–600 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง
การเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนติดตั้งเครื่อง EV Charger ควรตรวจสอบก่อนติดตั้ง EV Charger ทั้งตัวรถและสถานที่ เพื่อเลือกชนิดเครื่องชาร์จให้เหมาะสม เตรียมสถานที่และอุปกรณ์ให้พร้อม ดังนี้ [5,6]
1. ตรวจสอบประเภทหัวปลั๊กรถยนต์ ตรวจสอบที่เสียบหัวปลั๊กของรถยนต์ของท่าน ว่าเป็นประเภทไหน เพื่อที่จะได้ติดตั้งเครื่องชาร์จให้ตรงกับรถของท่าน โดยมักจะแบ่งตามประเทศที่ผลิต ดังนี้
Type 1 สำหรับรถญี่ปุ่น และอเมริกา เช่น Nissan Leaf / Tesla ที่ขายในอเมริกา
Type 2 สำหรับรถยุโรป เช่น Mercedes-Benz / BMW/ Volvo / Porsche / Tesla ที่ขายในยุโรป
Type GB/T สำหรับรถจีน เช่น BYD และรถที่ขายในจีน
ส่วนรถที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ โดยส่วนมากจะเป็น Type 2 เนื่องจากเป็นมาตรฐานที่หน่วยงานในไทยแนะนำไว้ แต่อาจมียี่ห้ออื่นประปรายที่เป็นหัวประเภทอื่น เช่น Nissan Leaf เป็น Type 1
2. ตรวจสอบขนาด On-Board Charger คือ ระบบควบคุมการดึงไฟฟ้า ที่ตัวรถจะสั่งการไปยังเครื่อง EV Charger โดยทั่วไปขนาดมีตั้งแต่ 3.6kW ถึง 22kW ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์ ซึ่งจะมีผลต่อระยะเวลาในการชาร์จไฟของแบตเตอรี่รถยนต์
ทั้งนี้ควรเลือกเครื่อง EV Charger ให้เหมาะกับรุ่นรถ แล้วแจ้งทีมช่างเพื่อที่จะเตรียมขนาดสายไฟและอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับขนาดเครื่อง EV Charger นั้นๆ ด้วย
3. ตรวจสอบขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า สังเกตที่มิเตอร์ไฟฟ้า ดูตรงข้อความที่เขียนว่า “Phase” หรือ “Type”มิเตอร์บ้านทั่วไปที่สร้างนานแล้ว มักจะอยู่ที่ Single-Phase 5(15)A หรือ Single-Phase 15(45)A ซึ่งเป็นกำลังไฟที่ไม่เพียงพอกับการใช้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าการจะติดตั้งเครื่อง EV Charger และใช้ไฟในบ้านได้อย่างเสถียร มาตรฐานขนาดมิเตอร์ที่ทางการไฟฟ้าฯแนะนำ คือ Single-Phase 30(100)A หรือ 3-Phase 15(45)A จึงจะเพียงพอ
*รายละเอียดวิธีการเปลี่ยนมิเตอร์ อ่านเพิ่มที่ : เตรียมพร้อมมิเตอร์ไฟฟ้ายังไง ก่อนติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
4. เลือกจุดติดตั้ง วิธีเลือกจุดติดตั้งที่เหมาะสมคือ
- ระยะจากจุดติดเครื่องชาร์จ จนถึงจุดที่เสียบเข้าตัวรถที่จอด ไม่ควรเกิน 5 เมตร เนื่องจากสายเครื่อง EV Charger โดยทั่วไป อยู่ที่ 5–7 เมตรเท่านั้น
- เลือกจุดที่สามารถเดินสายไฟจากเครื่องชาร์จไปยังตู้เมนไฟฟ้าในบ้านท่านได้สะดวก ไม่ควรเป็นโรงรถที่อยู่ห่างไกล เพราะจะต้องเสียค่าเดินสายไฟสูงขึ้น
- เลือกจุดที่มีหลังคาเพื่อป้องกันละอองฝน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมาตรฐานการกันน้ำของเครื่อง EV Charger นั้นๆ
- สำหรับลูกค้าที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม หรืออาคารชุด ให้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่นิติบุคคล เพื่อขออนุญาตให้เรียบร้อย ทั้งนี้คอนโดมิเนียม โดยส่วนใหญ่จะมีระยะแนวเดินสายไฟที่ไกลกว่าบ้าน จึงอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
ดังนั้น ก่อนที่เราจะซื้อรถยนต์ต้องศึกษารายละเอียดของตัวรถยนต์ด้วยว่าแบตเตอรี่ของรถยนต์ขนาดเท่าไร? On Board รับพลังงานไฟฟ้าได้สูงสุดเท่าไหร่? ซึ่งมีผลกับความเร็วในการชาร์จ และค่าไฟบ้าน เพื่อการเลือกซื้อเครื่องอัดประจุไฟฟ้าที่ถูกต้องและคุ้มค่าต่อการใช้งาน
รวบรวมและเรียบเรียงโดยนางสาววิชญ์ชยาภรณ์ นามวิสัย
บรรณานุกรม
[1] รวมสถานีชาร์จรถไฟฟ้าทั่วประเทศ ปี 2565 [Online], Available: https://th.carro.co/blog/ev-charging-stations-in-bangkok-thailand/ [15 กุมภาพันธ์ 2565]
[2] “พลังงาน” วางเป้าสถานีชาร์จ EV ต้องเพิ่มอีก 567 แห่ง ในปี 2573, 2565, [Online], Available: https://www.bangkokbiznews.com/business/989400 [11 กุมภาพันธ์ 2565]
[3] (สนพ.) ตั้งเป้าสถานีชาร์จ EV ต้องมี 567 แห่งในปี 2030 เน้นเข้าถึงง่ายต้นทุนเหมาะสม, 2565, [Online], Available: https://www.prachachat.net/economy/news-869669 [23 กุมภาพันธ์ 2565]
[4] เปิดสถิติเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทย, 2565, [Online], Available: https://news.thaipbs.or.th/content/312252 [23 กุมภาพันธ์ 2565]
[5] เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนติดตั้งเครื่อง EV Charger, 2563, [Online], Available: https://www.primeinterholding.com/th/เตรียมพร้อมก่อนติดตั้ง/ [23 กุมภาพันธ์ 2565]
[6] เตรียมพร้อมมิเตอร์ไฟฟ้ายังไง ก่อนติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า, 2563, [Online], Available: https://www.primeinterholding.com/th/เตรียมพร้อมมิเตอร์ไฟฟ้/ [23 กุมภาพันธ์ 2565]
[7] รถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ [Online], Available: https://thinkofliving.com/ไอเดียตกแต่ง/รถยนต์ไฟฟ้า-ev-ต้องใช้ไฟบ้านแบบไหน-จ่ายค่าไฟ [20 กุมภาพันธ์ 2565]
[8] EVO, 19 สิงหาคม 2521, EP1 e:HEV e-POWER PHEV BEV FCEV คืออะไร? [Video file]. Retrieved from https://www.youtube.com/watch?v=IB2wH40NNts
[9] ทำความรู้จักยานยนต์ไฟฟ้า 4 ประเภท, 2563, [Online], Available: https://erdi.cmu.ac.th/?p=1489 [28 กุมภาพันธ์ 2565]
[10] Motor Show 2022 ประกาศความพร้อม 23 มีนาคม — 3 เมษายน 2565 รวมระยะเวลา 12 วัน, 2565, [Online], Available: https://chobrod.com/auto-market/motor-show-2022-ประกาศความพร้อม-23-มีนาคม-3-เมษายน-2565-รวมระยะเวลา-12-วัน-12410 [9 มีนาคม 2565]
[11] ครม.เห็นชอบผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 30% ในปี 2573, 2565, [Online], Available: https://news.thaipbs.or.th/content/312733 [9 มีนาคม 2565]
[12] MEA Multimedia, 19 สิงหาคม 2021, MEA แนะนำมาตรฐานในการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า [Video file]. Retrieved from https://www.youtube.com/watch?v=Lc_vNsm83xM