ผนังดินอัด Rammed Earth

KMUTT Library
3 min readMar 9, 2022

--

นวัตกรรมบนโลกนี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มนุษย์สามารถนำวัสดุจากธรรมชาติมาใช้สำหรับสร้างที่อยู่อาศัยหลากชนิด จากการศึกษาทางประวัติศาสตร์พบว่า ‘ดิน’ เป็นวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างบ้านกันอย่างแพร่หลายเป็นเวลานานตั้งแต่สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงเป็นวัสดุที่เรียกว่า‘Rammed Earth’ หรือ ผนังดินอัด ซึ่งมีหลักฐานการใช้งานมายาวนานกว่า 1,000 ปีแล้ว หลักฐานที่ปรากฏเป็นที่แรก ๆ คือกำแพงเมืองที่ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น ของประเทศจีน ถูกสร้างขึ้นจากดินที่อุดมด้วยดินเหนียวผสมกับน้ำจำนวนมากและสารทำให้คงตัวในการก่อสร้างตามธรรมชาติ ในสมัยโบราณ จนถูกเรียกว่า ดินกันกระแทก ก่อนจะถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายในการสร้างกำแพงเมือง นอกจากนี้ยังพบหลักฐานกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก สถาปัตยกรรมที่บ่งบอกได้ว่ามีการใช้ผนังดินอัดเป็นวัสดุก่อสร้างสำหรับพักอาศัย อาทิ The Castle of Paderne ที่ประเทศโปรตุเกส หรือจะเป็น The Church of the Holy Cross ที่รัฐเซาท์แคโรไลน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา (BuilderNews, 2564)

รูปที่ 1 ตัวอย่าง : Paderne Castle (Castelo Paderne) ที่มา : https://portugalconfidential.com/paderne-castle/
รูปที่ 2 ตัวอย่าง : Earthen walls at the Jiayuguan fortress in China, built by the Ming Dynasty around 1372. ที่มา : https://www.researchgate.net/figure/Earthen-walls-at-the-Jiayuguan-fortress-in-China-built-by-the-Ming-Dynasty-around-1372_fig1_319774400

ข้อดีของ Rammed Earth หรือ ผนังดินอัด

ผนังดินอัด เป็นหนึ่งในวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดและมีราคาถูกมาก ในบางสถานที่อาจฟรีด้วยซ้ำ เนื่องจากดินที่อุดมด้วยดินเหนียวที่สามารถใช้สร้างส่วนผสมของดินกระแทกนั้นสามารถพบได้เกือบทุกที่ ต่อให้ต้องใช้มากแค่ไหนก็ไม่เคยขาดดิน เนื่องจากดินมีอยู่ทั่วทั้งโลกจึงไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายดินเป็นระยะทางไกล

ผนังดินอัด หรือผนังดินปั้น คือลวดลายที่เกิดขึ้นจากขบวนการอัดดิน โดยจะเป็นชั้นดินที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน สีสันที่แตกต่างจะขึ้นตามโทนสีของดินธรรมชาติ Rammed Earth เกิดจากส่วนผสม 3 ส่วนด้วยกัน คือดิน ซีเมนต์ และน้ำโดยทั้งหมดจะถูกผสมจนได้เนื้อดินที่ข้น จากนั้นก็นำไปเทลงบล็อกที่สร้างไว้ให้แข็งตัวเหมือนซีเมนต์ ก่อนจะใช้เครื่องอัดกระทุ้งให้เนื้อดินแน่นสนิทด้วยแรงความดันสูงสุดถึง 400 psi จนเกิดเป็นลวดลายที่มีเอกลักษณ์และแตกต่างกันไปในแต่ละจุด

รูปที่ 3 : เทคนิคการทำผนังดินอัด ที่มา : https://www.buildernews.in.th/wp-content/uploads/2021/06/rammed-earth.jpg

คุณสมบัติอันโดดเด่นของผนังดินอัด

1. มีแรงยึดเกาะตามธรรมชาติสูงกว่าปูนฉาบทั่วไป

2. ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี ทำให้มีกลิ่นหอมจากธรรมชาติ

3. ทนต่อทุกสภาพอากาศ โดยที่วัสดุไม่เกิดความเสียหาย

4. หมดกังวลเรื่องของเชื้อรา และการผุกร่อนที่เกิดจากแมลง

การก่อสร้างและค่าพลังงานสะสมรวมวัสดุอาคารผนังดินอัด (Construction and Embodied Energy Rammed Building)

จากงานวิจัยของยุทธนา เกาะกิ่ง คณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เพื่อต้องการหาทางวิธีการก่อสร้างอาคารที่สามารถลดการใช้พลังงานสะสมรวมของวัสดุ โดยทำการทดสอบวัสดุและพัฒนาวิธีการการออกแบบที่ใช้วัสดุดินในพื้นที่ และทำการก่อสร้างอาคารผนังดินอัด พร้อมหาค่าการถ่ายเทความร้อนและพลังงานสะสมวัสดุของอาคารผนังดินอัด พบว่าค่ากำลังแรงอัดของดินเหนียวจะสูงกว่าดินลูกรัง แรงอัดของดินเหนียวที่มีอายุ 28 วัน คือ 15.02 กก./ตร.ซม. ขณะดินลูกรัง คือ 3.71 กก./ตร.ซม. เครื่องมือที่ได้พัฒนาขึ้นเป็นตารางที่สามารถออกแบบอาคารได้สองชั้น ความหนาของผนัง 40–60 ซม. และ ความสูง 2.50–3.50 ม. ขนาดห้อง 3.00–4.50 ม. ดินลูกรัง เป็นดินที่ถูกนำไปสร้างอาคารผนังดินอัด เพราะที่อยู่ใกล้สถานที่ก่อสร้าง กำลังแรงอัดที่ใช้ในการออกแบบคือ 1.39 กก./ตร.ซม. อาคารผนังดินอัดที่ได้ก่อสร้างมีพื้นที่ใช้สอย 171ตร.ม. สำหรับการก่อสร้างดินอัดใช้แรงงานมากกว่าการก่อสร้างทั่วไป ค่าการถ่ายเทความร้อนรวมของ OTTV อยู่ที่ 22.01 วัตต์/ชั่วโมง การหาค่าพลังงานสะสมวัสดุรวมอาคารผนังดินอัด คือ 11,285.07 กิโลวัตต์ ซึ่งน้อยกว่าผนังอิฐและผนังบล็อกซีเมนต์ จากผลการวิจัยพบว่า อาคารผนังดินอัดสามารถสร้างและนำมาอาศัยได้จริง รวมถึงสามารถลดการใช้พลังงานลงได้ โดยเลือกวัตถุดิบที่มีในพื้นที่เพื่อลดพลังงานในการขนส่งและไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปเหมือนวัสดุผนังประเภทอื่น แต่ยังมีข้อจำกัดในด้านเทคนิคและการยอมรับจากผู้คนทั่วไปที่ไม่คุ้นเคยในการอยู่อาศัยในบ้านลักษณะดังกล่าว ตลอดจนการดูแลและซ่อมแซม รวมถึง บางภูมิประเทศที่อาจสร้างบ้านลักษณะดังกล่าวไม่ได้ คือบริเวณที่มีน้ำท่วมถึงเพราะจะส่งผลต่อความแข็งแรงต่อผนังโดยตรง (ยุทธนา เกาะกิ่ง, 2562)

รูปที่ 4 : พลังงานสะสมวัดุที่ได้จากขั้นตอนต่าง ๆ ที่มา : https://so02.tci-thaijo.org/index.php/Jadc/article/view/229740
รูปที่ 5 : ขั้นตอนการก่อสร้าง ที่มา : https://so02.tci-thaijo.org/index.php/Jadc/article/view/229740

การก่อสร้างแบบดินอัด: ทางเลือกสำหรับสถาปัตยกรรมยั่งยืน (Rammed Earth Construction: An Alternative for Sustainable Architecture)

รองศาสตราจารย์ ดร.ภัทรนันท์ ทักขนนท สาขาวิชาเทคโนโลยีทางอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับในยุคของการหวนหาสถาปัตยกรรมเขียว สถาปัตยกรรมที่อนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม ดินเป็นวัสดุทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจ เพราะไม่มีกรรมวิธีการเผาซึ่งปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้กับโลกเช่นกรรมวิธีของการผลิตอิฐที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการก่อสร้างอาคาร เทคนิคการก่อสร้างโดยใช้ดินวิธีหนึ่งคือ การอัดกระทุ้ง (Ramming) โดยมีการใช้ผนังดินอัด (Rammed earth) เพื่อเป็นผนังรับน้ำหนักสำหรับอาคารที่ให้ทั้งความแข็งแรงทางโครงสร้างและความสวยงาม เป็นลักษณะเฉพาะของวัสดุ นอกจากนี้ ยังสะท้อนความเป็นสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่อยูได้อย่างยั่งยืนกับธรรมชาติ บทความนี้จึงเป็นการศึกษาวิจัยการก่อสร้างโดยใช้ดินประเภทผนังดินอัดในเชิงการออกแบบ ส่วนผสม เทคนิคการก่อสร้าง และการประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ด้านการป้องกันความร้อนและสร้างสภาวะน่าสบายในอาคาร

โดยสรุปการก่อสร้างแบบดินอัด เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ควรพิจารณาสำหรับการออกแบบและก่อสร้างสถาปัตยกรรมยั่งยืน เนื่องจากมีต้นทุนวัสดุและพลังงานในการผลิตต่ำจึงเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมและยังดีต่อการต้านทานความร้อนที่จะเข้าสู่อาคาร โครงการที่เหมาะสำหรับการก่อสร้างแบบนี้ควรตั้งอยู่ใกล้แหล่งดินธรรมชาติที่มีลักษณะเหมาะแก่การทำโครงสร้างผนังดินรับน้ำหนัก แต่เพื่อลดความยุงยากในการทำแม่แบบ ควรได้มีการศึกษาวิจัยขั้นต่อไปเพื่อพัฒนาแม่แบบที่มีความแข็งแรง ใช้ก่อสร้างได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว อันจะทำให้เทคนิคการก่อสร้างแบบดินอัดนี้เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น (ภัทรนันท์ ทักขนนท, 2556)

ผนังดินอัด La Terre (ลาแตร์) วัสดุธรรมชาติจากเทคโนโลยีโบราณสู่วัสดุสถาปัตยกรรมโมเดิร์น

คุณปัจจ์ บุญกาญจน์วนิชา สถาปนิกผู้เชี่ยวชาญในทาง “ดิน” ได้อธิบายถึงผนังดินอัดว่า กรรมวิธีการทำบ้านดินนั้นมีอยู่หลายวิธี แต่สิ่งที่ทำให้สนใจ “ผนังดินอัด” หรือที่เรียกว่า Rammed Earth ก็เพราะวิธีการสร้างบ้านดินเกือบทุกวิธีในโลกนั้นมักจะต้องจบด้วยการฉาบผิว แต่ Rammed Earth นั้นไม่ต้องฉาบสามารถโชว์ชั้นผิวดินได้เลยทันที แต่ก็ได้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมที่เรียกว่า ดินฉาบ ที่สามารถใช้งานไปด้วยกันได้เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการ

สิ่งที่ทำให้คุณปัจจ์ ศึกษาเรื่อง Rammed Earth เพราะวิธีการนี้สามารถต่อยอดไปใช้งานในอาคารแบบโมเดิร์นได้หลากหลาย เช่น ในงานของมูลนิธิป่าในกรุง ที่ทำเป็นผนังดินอัดขนาดใหญ่ หรืออย่างโรงแรม Tara Villa ก็นำวัสดุดังกล่าวมาทำเป็นผนังสูงหลายเมตร ผสมผสานกับดินฉาบ ชิ้นงานที่ได้สามารถสร้างบรรยากาศและการใช้งานในพื้นที่ได้หลากหลายเช่นกัน นอกจากนำมาสร้างเป็นผนังอาคารแล้ว สถาปนิกยังนำมาประยุกต์ใช้ในงานพื้น กับงานภูมิสถาปัตยกรรมในรัฐสภาแห่งใหม่

นอกจากความงามแล้ว การใช้ดินในงานสถาปัตยกรรมโดยเฉพาะกับที่อยู่อาศัยมีความพิเศษซ่อนอยู่ เพราะการได้สัมผัสดินหรืออยู่อาศัยในบ้านดิน มีคุณสมบัติที่ดีอยู่หลายอย่าง อย่างแรกคือไม่มีสารระเหยเป็น VOC คลีน แน่นอนว่าไม่มีกลิ่น แต่ถ้ามีความชื้นมาสัมผัสจะมีกลิ่นดินออกมา เป็นกลิ่นที่ผ่อนคลายเรียกว่า Geosmin ช่วยให้หลับง่ายมากขึ้น เรื่องต่อมาคือเป็นผนังที่หายใจได้ มีความชื้นที่พอเหมาะต่อการอยู่อาศัยสามารถช่วยฟอกอากาศได้ด้วย เพราะคุณสมบัติของดินจะมีการดูดซับความชื้นและคลายออก ไม่อึดอัดอับอู้ สุดท้ายคือการที่สัมผัสของการได้อยู่กับดิน พาให้ผู้อยู่อาศัยได้ผ่อนคลายอย่างมีความสุข (บ้านและสวน, 2564)

รูปที่ 6 : โครงการป่าในกรุง ที่มา : https://www.baanlaesuan.com/239447/design/design-update/people/la-terre-studiovisit

“ผนังดินอัด” ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกระแสในการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างจากธรรมชาติ ที่สามารถนำมาใช้ก่อสร้างเป็นสิ่งปลูกสร้างได้จริง ด้วยคุณสมบัติเป็นฉนวนอย่างดี ไม่อมความร้อนเวลากลางวัน และกักเก็บอุณหภูมิความเย็นในช่วงกลางคืน และปล่อยไอเย็นออกมาในช่วงกลางวัน ทำให้บรรยากาศโดยรอบมีความเย็นสบายตลอดทั้งวัน เป็นวัสดุที่มีความมั่นคงแข็งแรง ใช้พลังงานในการผลิตน้อย จัดวัสดุทางเลือกของการสร้างบ้านแบบประหยัดพลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

บรรณานุกรม

บ้านและสวน, 2564, ผนังดินอัด La Terre (ลาแตร์) วัสดุธรรมชาติจากเทคโนโลยีโบราณสู่วัสดุสถาปัตยกรรมโมเดิร์น, [Online] Available: https://www.baanlaesuan.com/239447/design/design-update/people/la-terre-studiovisit [5 มีนาคม 2565]

ภัทรนันท์ ทักขนนท์, 2556, การก่อสร้างแบบดินอัด: ทางเลือกสำหรับสถาปัตยกรรมยั่งยืน, รายงานการประชุมวิชาการระดับชาติเครือข่ายภูมิปัญญาสถาปัตยกรรมและการออกแบบ”โฮมภูมิ”: เอกภาพในความหลากหลาย ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, [Online] Available: https://homepoom2017.files.wordpress.com/2016/09/z03.pdf [1 มีนาคม 2565]

ยุทธนา เกาะกิ่ง, 2562, การก่อสร้างและค่าพลังงานสะสมรวมวัสดุอาคารผนังดินอัด = Construction and Embodied Energy Rammed Building, วารสารสถาปัตยกรรม การออกแบบและการก่อสร้าง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 1(3).

BuilderNews, 2021, ทำความรู้จัก “Rammed Earth” เปลี่ยน ‘ดิน’เป็น ’ผนังดินอัด’ วัสดุก่อสร้างจากธรรมชาติ [online] Available: https://www.buildernews.in.th/productsservices/technology/42658 [1 มีนาคม 2565]

Naditz, Alan, 2015, Rammed Earth: Affordable, and Relatively Unknown [Online], Available: https://www.greenbuildermedia.com/buildingscience/one-of-the-most-affordable-eco-friendly-materials-is-relatively-unknown/ [March 1, 2022]

Sadana, Nishtha, 2021, 10- Innovative construction materials used around the world [Online], Available: https://www.re-thinkingthefuture.com/rtf-fresh-perspectives/a1072-10-innovative-construction-materials-used-around-the-world/ [March 1, 2022]

Preciado, Adolfo, 2017, Performance of a Self-Build Rammed Earth House in a High Seismic Zone of Mexico [Online], Available: https://www.researchgate.net/publication/319774400_Performance_of_a_Self-Build_Rammed_Earth_House_in_a_High_Seismic_Zone_of_Mexico [March 1, 2022]

Portugal Confidential Travel & Lifestyle, 2016, Paderne Castle (Castelo Paderne) [Online], Available: https://portugalconfidential.com/paderne-castle/ [March 1, 2022]

เรียบเรียงโดย สุพักตรา ยุทธภัณฑ์บริภาร

--

--

KMUTT Library
KMUTT Library

Written by KMUTT Library

KMUTT Library provides information to any person. Our target supports everybody has Life Long Learning ready to 21st century skill.

No responses yet