ประเด็นที่น่าตั้งคำถามของวัคซีน Covid-19

KMUTT Library
4 min readMay 19, 2021

--

คุณตัดสินใจได้หรือยังกับการฉีดวัคซีน? ลองเริ่มต้นจากการตั้งคำถามให้กับตัวเองก่อนก็ได้..

การฉีดวัคซีนเป็นกระบวนการที่นำเชื้อแบคทีเรียก่อโรคเข้าร่างกาย [1]เพื่อกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกันต่อโรค จุดเริ่มต้นก่อนพัฒนาเป็นวัคซีนอย่างทุกวันนี้ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ชาวจีนสร้างภูมิคุ้มกันโรคคล้ายกับการฉีดวัคซีน โดยให้คนที่มีสุขภาพดีรับเนื้อเยื่อหรือสะเก็ดแผลที่ได้จากผู้ป่วยเข้าร่างกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ใน ค.ศ. 1796 นายแพทย์เอ็ดเวิร์ด เจนเนอร์ ชาวอังกฤษ จึงทดลองเชื้อฝีดาษ (โรคไข้ทรพิษ) จากแผลฝีดาษวัว วัคซีนดังกล่าวได้รับการรับรองจากรัฐสภาอังกฤษในอีก 4 ปีต่อมา และมีการใช้วัคซีนดังกล่าวในการป้องกันโรคไข้ทรพิษไปทุกภูมิภาคของโลก กระทั่งในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1980 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่า โรค ไข้ทรพิษ หรือฝีดาษได้หมดไปจากโลก

Everett Collection by Shutterstock

หากพิจารณาจากไทม์ไลน์ของโรคไข้ฝีดาษหรือไข้ทรพิษแล้ว นับว่าเป็นเวลาเกือบสามศตวรรษที่โรคร้ายแรงโรคหนึ่งที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ค่อยๆ ถูกให้จางหายไปจากโลกเรากรณีที่มีการผลิตวัคซีน Covid-19 ออกมาให้ได้ใช้ มีประเด็นที่น่าตั้งคำถาม คือ

ทำไมกระบวนการผลิตวัคซีนถึงรวดเร็วนัก เราควรต้องรู้อะไรอีกบ้างเกี่ยวกับวัคซีน Covid-19

Photo by Daniel Schludi on Unsplash

ทำไมต้องฉีดวัคซีน Covid-19” [2] เป็นประเด็นสะท้อนให้เห็นถึงการตระหนักต่อความจำเป็นของภาพรวมในการยับยั้งโรคอุบัติใหม่ สาเหตุของการฉีดวัคซีน/ความจำเป็น มีดังนี้

  1. การฉีดวัคซีนทำเพื่อป้องกันโรค ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Covid-19 ได้ 70% จากข้อมูลวันที่ 18 เมษายน 2564 พบว่า ประเทศอิสราเอลที่ประชากรได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 57%[3] และอาจจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่แล้วถึง 68% ซึ่งแสดงว่า สามารถยับยั้งการระบาดได้ และมีการประกาศผ่อนคลายมาตรการเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ภายนอกอาคาร พื้นที่เปิดโล่งไม่ต้องสวมใส่หน้ากาก
  2. หากร่างกายติดเชื้อเป็นโรค Covid-19 หวังว่า วัคซีนจะสามารถลดความร้ายแรงของอาการลงได้[4]
  3. หากร่างกายได้รับความรุนแรงจากโรค Covid-19 หวังว่าวัคซีนจะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตลงได้

“วัคซีนมีกี่ชนิด” มีการกล่าวถึงชนิดวัคซีนหลายรูปแบบ ซึ่งสำหรับวัคซีน Covid-19 มีการแบ่งไว้หลายชนิดโดยรวมสรุป 4 ชนิด[5] ได้แก่

  1. mRNA vaccine : คำว่า mRNA ย่อมาจาก messenger RNA เป็นอาร์เอ็นเอ ที่ได้จากการถอดรหัสของยีน โดยตัวมันเองอยู่นอกนิวเคลียสเซลล์ ทำให้วัคซีนไม่ได้มีผลกับ DNA และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้สูง ในอดีตยังไม่มีวัคซีนที่ผลิตด้วยกระบวนการนี้ใช้ในมนุษย์มาก่อน วัคซีนชนิดนี้ค่อนข้างสลายได้ง่าย อุณหภูมิที่ใช้เก็บรักษาต้องคงที่อุณหภูมิ -70 ถึง -20 องศาเซลเซียสเพื่อการรักษาสภาพและต้องถูกหุ้มด้วย Nanolipid (การพัฒนาอนุภาคและระบบนำส่งในโรงงานระดับมาตรฐาน) ตัวอย่างของวัคซีนนี้ เช่น ไฟเซอร์ (Pfizer) ไบโอเอ็นเทค (BioNTech) และโมเดอร์นน่า (Moderna)
  2. Recombinant protien vaccines : วัคซีนที่ผลิตจากการตัดต่อโปรตีน เป็นการเลียนแบบโปรตีนที่ผลิตออกมาจากสารพันธุกรรมไวรัส ขณะนี้กำลังพัฒนาหลายแบบ ได้แก่ กลุ่มที่เน้นจุดของโปรตีนหนามเป็นหลัก (Recombinant spike-protein vaccine) ดังตัวอย่าง Hexapro[6]ของทีมวิจัยจาก University of Texas at Austin ในสหรัฐอเมริกา หรือใช้อนุพันธ์โครงสร้างที่เหมือนไวรัส (Virus-like particle vaccine : VLP vaccine)
  3. Viral vector-based vaccines : เป็นการใช้ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอื่นเป็นพาหะ โดยการนำสารพันธุกรรมเฉพาะส่วนมาฝากไว้ในร่างกายกับไวรัสอื่น GMO ไวรัสมีทั้งแบบที่ทำหมันไวรัส เช่น วัคซีนของบริษัท AstraZeneca-Oxford และ GMO ไวรัสแบบไม่ทำหมัน เช่น วัคซีนของบริษัท Johnson & Johnson ที่ฉีดครั้งเดียวก็เพียงพอ
  4. Inactivated vaccines : วัคซีนชนิดเชื้อตาย เป็นการพัฒนาวัคซีนแบบวิธีดั้งเดิม ใช้การเพาะเชื้อจำนวนมากมาทำลายฤทธิ์ให้ตาย ให้ภูมิคุ้มกันทำลายทั้งโปรตีนหนาม (Spike protein) และส่วนอื่น ๆ ของไวรัส เช่น วัคซีนของ SinoVac บริษัท Sinopharm
Photo by Hakan Nural on Unsplash

“การพัฒนาวัคซีนมีกี่ระยะ” ในภาพรวมของกระบวนการทดสอบวัคซีนมี 3 ระยะการทดลอง ประกอบด้วย [7]

การทดลองระยะที่ 1 — การสร้างเพื่อทดสอบความปลอดภัย วัดความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกันกับขนาดของตัวยา

การทดลองระยะที่ 2 — การขยายเรื่องความปลอดภัย ประเมินการตอบสนองของระบบภูมิกันโดยมีผู้ทดสอบเพิ่มจำนวนมากขึ้น

การทดลองระยะที่ 3 — การตรวจสอบประสิทธิภาพการป้องกัน มีร้อยละของการลดอุบัติการณ์ของโรคใหม่ ยืนยันความสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในคนทุกกลุ่ม

จากนั้นจะมีการทดสอบหาผลข้างเคียง ซึ่งมีหน่วยงานควบคุมการใช้วัคซีน ตรวจสอบผลการทดลองและความปลอดภัยเ พื่อการตัดสินใจใช้ภายในประเทศ

“ผลข้างเคียงของวัคซีน Covid-19 เป็นอย่างไร” เป็นประเด็นร้อนที่ทุกคนกำลังสนใจ

Photo by Aarón Blanco Tejedor on Unsplash

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ปรากฏผลข้างเคียงจากวัคซีนชนิด mRNA อย่าง Pfizer-BioNTech และ Moderna ในโดสที่ 2 มีแนวโน้มรุนแรงกว่าโดสแรก[8] ผู้รับวัคซีนมีอาการ เช่น ปวดศีรษะ เมื่อยล้า อ่อนเพลีย ในระยะ 1–7 วันหลังฉีด รวมถึงวัคซีนแบบ Viral Vector อย่าง AstraZeneca-Oxford ด้วย จากนั้นข้อมูลในวันที่ 19 เมษายน 2564 [9] พบผลข้างเคียงของวัคซีนจากบริษัท Johnson & Johnson ว่า วัคซีนก่อให้เกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน (Vaccine-induced Immune Thrombotic Thrombocytopenia (VITT) หลังการฉีด 4–30 วัน เฉลี่ยที่ 1 คน ต่อ 1 แสนคน และทุกกรณีพบในเพศหญิงที่อายุต่ำกว่า 50 ปี สามารถรักษาได้ทันการ จึงไม่เกิดปัญหาใด นอกจากนั้นในกรณีของประเทศไทย ข้อมูลเมื่อวันที่ 21 -22 เมษายน 2564 ภายหลังจากการฉีดวัคซีน SinoVac ภายใน 5–15 นาที กรณีจังหวัดลำปาง [10] พบบุคลากรทางการแพทย์ เพศหญิงวัย 46 ปี มีอาการอ่อนแรงแขนขา พูดไม่ชัด แพทย์จึงได้ฉีด RtPa ตามแนวทางรักษาของอาการโรคหลอดเลือดในสมองตีบ (Stroke Fast Track) หลังจากนั้นใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมงจึงมีอาการดีขึ้น กรณีจังหวัดระยอง [11] พบเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เพศหญิง 6 คน อายุระหว่าง 21–54 ปี มีอาการปวดตึงต้นแขน ปวดศีรษะบริเวณท้ายทอย ใจสั่น แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด สมองสั่งการช้า ซึ่งมี 1 รายที่มีโรคประจำตัวและอีก 1 รายที่น้ำหนักเกิน โดยเป็นอาการชั่วคราวและกลับมาเป็นปกติดังเดิมเช่นดังกรณีที่พบในจังหวัดลำปาง จึงเป็นที่น่าตั้งข้อสังเกตว่า กรณีข้างเคียงมักพบในเพศหญิง ซึ่งมีอายุน้อยกว่า 55 ปี

“ก่อนฉีดวัคซีนควรเตรียมตัวอย่างไร” จากผลข้างเคียงจึงมีข้อแนะนำสำหรับเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีน [12]

1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

2. ดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ จากปกติวันละ 6–8 แก้ว ให้ดื่มน้ำเพิ่มในวันที่ฉีดอย่างน้อย 500–1,000 ซีซี

3. หลีกเลี่ยงยาหรือสิ่งที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว หรืออาจปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีน เช่น ยารักษาไมเกรน ยารักษาโรคซึมเศร้างบางตัว ชา/กาแฟ เป็นต้น

Photo by CDC on Unsplash

“ทำไมผลิตวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว” ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์หากเทียบการคิดค้นวัคซีนและการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษที่ใช้เวลาเกือบสามศตวรรษ กับโรคอุบัติใหม่ Covid-19 ที่ใช้เวลา 2–3 ปี นับว่าผลิตวัคซีนได้เร็วกว่าเกือบ 100 เท่า

จากบทความปริทัศน์ เรื่อง การแข่งขันของวัคซีน Covid-19 : ความท้าทายและโอกาสในการใช้วัคซีนใหม่ ของ Jieliang Wang และคนอื่นๆ[13] เปิดเผยว่า

  1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในการหาลำดับจีโนมการระบุเชื้อโรคในระยะแรก และฐานข้อมูลออนไลน์ แพลตฟอร์มที่เผยแพร่ได้ก่อนการตีพิมพ์ล่วงหน้าช่วยให้นักวิจัยสามารถแบ่งปันข้อมูลและแสดงความคิดเห็นได้โดยไม่ต้องใช้เวลาเผยแพร่
  2. การทดลองด้วย Silico tools [14] การสร้างต้นแบบการทดลองใหม่ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถจำลองการทดลองล่วงหน้าก่อนการลงมือทำปฏิบัติการจริง ช่วยลดต้นทุนและระยะเวลาในการพัฒนาวัคซีนได้มาก
  3. การใช้เทคนิคการจำลองพลวัตเชิงโมเลกุล[15] (Molecular Dynamic simulation) ซึ่งนิยมนำมาใช้ศึกษาสมบัติของโปรตีนที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในระดับอะตอม โดยอาศัยการวิเคราะห์โครงสร้างและมองเห็นโปรตีนเคลื่อนไหว เพื่อศึกษาการม้วนพับของโปรตีนที่มักจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคได้

วิวัฒนาการทางการแพทย์ ทั้งการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การจำลองโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีทางการขนส่ง ทำให้คิดค้นวิจัยวัคซีน Covid-19 อย่างเปิดกว้าง และนำมาทดลองการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลา กระบวนการผลิตวัคซีนที่สามารถผลิตได้ครั้งละจำนวนมาก การขนส่งมีประสิทธิภาพจึงรักษาคุณภาพของวัคซีนได้สูง ทำให้วัคซีน Covid-19 กระจายไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดให้ได้ไวที่สุด หลังจากนี้ผลของการฉีดวัคซีนเป็นสิ่งที่น่าติดตามต่อไป ด้วยโลกเรานี้มีผู้คนที่มีเชื้อชาติ และพันธุกรรมแตกต่างกัน จึงเกิดกรณีศึกษาแตกต่างกันได้หลายกรณี แต่หากเรามีสารสนเทศที่เข้าถึงง่ายและเทคโนโลยีการส่งต่อข้อมูลที่รวดเร็ว การวิเคราะห์ความคล้ายคลึงของกรณีศึกษา เพื่อตัดสินใจเลือกวัคซีนเข้ามาในประเทศและเป็นการสร้างหลักประกันทางสุขภาพที่ดีให้กับคนในประเทศนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยาก

รวบรวมข้อมูลโดยนางสาวอารยา ศรีบัวบาน

เอกสารอ้างอิง

AMERICAN SOCIETY OF HEMATOLOGY. (2021). Thrombosis with Thrombocytopenia Syndrome (alsotermed Vaccine-induced Thrombotic Thrombocytopenia). Retrieved by April 20, 2021. URL:https://www.hematology.org/covid-19/vaccine-induced-immune-thrombotic-thrombocytopenia

Kathryn M Edwards,..[et al.], COVID-19: Vaccines to prevent SARS-CoV-2 infection. Retrieved by April 19, 2021. https://www.uptodate.com/contents/covid-19-vaccines-to-prevent-sars-cov-2-infection.

Kim, J.H., Marks, F. & Clemens, J.D. Looking beyond COVID-19 vaccine phase 3 trials. Nat Med 27, 205–211 (2021). https://doi.org/10.1038/s41591-021-01230-y.

Wang, J., Peng, Y., Xu, H., Cui, Z., & Williams, R. O., 3rd (2020). The COVID-19 Vaccine Race: Challenges and Opportunities in Vaccine Formulation. AAPS PharmSciTech, 21(6), 225. URL: https://doi.org/10.1208/s12249-020-01744-7

BBCNewsไทย. (2562). สุขภาพ : ประวัติศาสตร์ฉบับย่อของการฉีดวัคซีน. สืบค้นเมื่อ 10 เมษายน 2564, URL: https://www.bbc.com/thai/features-48676003.

BBCNewsไทย. (2564). โควิด-19: ผลสอบสวน สธ. ชี้ 6 จนท. รพ.ระยอง เกิดอาการคล้ายโรคหลอดเลือดทางสมอง หลังรับวัคซีนซิโนแวค. สืบค้นเมื่อ 22 เมษายน 2564, URL: https://www.bbc.com/thai/thailand-56827938

THE STANDARD TEAM. (2564). ถอดบทเรียนการรับมือโควิด-19 จากอิสราเอล ประเทศแรกของโลกที่เตรียมก้าวสู่‘ภูมิคุ้มกันหมู่’. สืบค้นเมื่อ 20 เมษายนน 2564, URL:https://thestandard.co/dealing-with-covid-19-israel-herd-immunity/

จิตระยุทธ์ จิตอ่อนน้อม. (2557). การประยุกต์ใช้เทคนิคการจำลองพลวัตเชิงโมเลกุลทางด้านวิทยาศาสตร์โปรตีน.วารสารนเรศวรพะเยา 7, 1 (ม.ค.-เม.ย. 2557) หน้า 4–16. URL:https://li01.tci-thaijo.org/index.php/journalup/article/view/42801/35416

ชมภูนุช วิรุณานนท์ และวรวุฒิ จุฬาลักษณานุกูล. (2553). ชีวสารสนเทศ : การประยุกต์ใช้ในงานวิจัยวิทยาศาสตร์ชีวภาพ. Burapha Sci J. 15, 2 (2010) p. 99–106. URL:http://www.bbru.sc.chula.ac.th/biofuel3_htm_files/2553-2-11.pdf

ณรงค์กร มโนจันทร์เพ็ญ. (2564). ผลข้างเคียงวัคซีนต้านโควิด-19 มีอะไรบ้าง รุนแรงแค่ไหน?. สืบค้นเมื่อ 10 เมษายน 2564, URL: https://thestandard.co/side-effects-of-the-covid-19-vaccine/

ไทยโพสต์. (2564). ม.มหิดล คิดค้น”วัคซีนกรดไรโบนิวคลีอิกโควิด-19" และ “วัคซีนซับยูนิตโควิด-19 แบบเฮกซะโปร”เล็งต่อยอดวิจัยวัคซีนป้องกันมะเร็ง — โรคอุบัติใหม่, สืบค้นเมื่อ 29 มีนาคม 2564, URL: https://www.thaipost.net/main/detail/97133

ไทยรัฐออนไลน์. 2564. รพ.ลำปางระงับฉีดซิโนแวค หลัง จนท.การแพทย์เกิดผลข้างเคียงเกือบ 40 ราย. สืบค้นเมื่อ 23 เมษายน 2564, URL: https://www.thairath.co.th/news/local/north/2074673

ไทยรัฐออนไลน์. 2564. วิธีเตรียมตัวฉีดวัคซีนโควิด-19 ลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2564, URL: https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2083441.

นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย. (2564). Dr.V Channel. สืบค้นเมื่อ 19 เมษายน 2564, URL: https://www.youtube.com/c/DrVChannel28/playlists.

สำนักข่าว Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ. (2557). โรคระบาดร้ายแรงในอดีต ตอนที่ 3 โรคไข้ทรพิษ (ฝีดาษ). สืบค้นเมื่อ 10 เมษายน 2564, URL: https://www.hfocus.org/content/2014/08/7977

--

--

KMUTT Library
KMUTT Library

Written by KMUTT Library

KMUTT Library provides information to any person. Our target supports everybody has Life Long Learning ready to 21st century skill.

No responses yet